กระชายดำ สมุนไพรเพื่อสุขภาพ
สรรพคุณชั้นยอด, เพิ่มฮอร์โมน, บำรุงกำลัง
ได้รับสมญานาม " โสมไทย "
*** สารสำคัญในกระชายดำ ***
สารที่พบในเหง้ากระชายดำ ได้แก่ borneol, sylvestrene ซึ่งแสดงฤทธิ์ต้านจุลชีพ
และ สาร 5,7 - ไดเมธอกซีฟลาโวน (5,7 - dimethoxflavone=5,7 DMF) ซึ่งแสดง
ฤทธิ์ต้านอักเสบ นอกจากนี้รายงานการวิจัยของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ปี2547 พบสาร
พวกฟลาโวนอยด์ 9 ชนิด เช่น สาร 5,7,4'- trimethoxyflavone, 5, 7, 3', 4'-
tetramethoxyflavone เป็นต้น
ผลการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
*** ฤทธิ์ต้านอักเสบ ***
สาร 5,7 - ไดเมธอกซีฟลาโวน (5,7 - DMF) ที่แยกได้จากเหง้ากระชายดำ
มีฤทธิ์ต้านการอักเสบเทียบได้กับยามาตรฐานหลายชนิด คือ แอสไพริน, อินโดเมธาซิน,
ไฮโดรคอร์ติโซน และ เพรดนิโซโลน จากการศึกษาฤทธิ์ต้านอักเสบของสารนี้ในสัตว์
ทดลองด้วยวิธีการต่าง ๆ พบว่าสาร 5, 7 - DMF สามารถต้านการอักเสบแบบเฉียบพลัน
ได้ดีกว่าแบบเรื้อรัง
นอกจากนี้พบว่าสาร 5,7 - DMF มีฤทธิ์ยับยั้งการเกิด exudation และ การสร้างสาร
prostaglandin อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อศึกษาฤทธิ์ต้านการอักเสบในช่องปอดของหนูขาว (rat pleurisy)
*** ฤทธิ์ต้านเชื้อจุลินทรีย์ ***
สาร 5,7,4' - trimethoxyflavone และ 5,7,3',4' - tetramethoxyflavone แสดงฤทธิ์
ต้านเชื้อ plasmodium falciparum ที่เป็นสาเหตุของโรคมาเลเรีย ส่วนสาร 3,5,7,4'-
tetramethoxyflavone และ 5,7,4' - trimethoxyflavone แสดงฤทธิ์ต้านเชื้อ Candida albicans
และ แสดงฤทธิ์ต้านเชื้อ Mycobacterium อย่างอ่อน
*** ฤทธิ์ขยายหลอดเลือดแดง ***
มีรายงานการวิจัยว่า สารสกัดด้วยเอธานอลของกระชายดำมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดแดงใหญ่
(aorta) และ ลดการหดเกร็งของลำไส้เล็กส่วนปลาย (ileum) ของหนูขาว และ ยับยั้งการเกาะกลุ่ม
ของเกล็ดเลือดคน
ข้อมูลที่มา : สถาบันการแพทย์แผนไทย
*** สรรพคุณของกระชายดำ ***
สมุนไพรมากคุณค่าตามตำรายาแผนโบราณ " กระชายดำ " จัดว่าเป็นสมุนไพร และ เป็นยา
อายุวัฒนะที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ทั้งผู้บริโภค และ วงการแพทย์แผนไทย เพราะเชื่อว่า
มีสรรพคุณทางยา ถึงแม้ว่ายังไม่มีรายงานทางการแพทย์อย่างเป็นทางการ จากประสบการณ์ของ
ผู้ที่บริโภคกระชายดำมีรายงานว่า บำรุงกำลัง, บำรุงหัวใจ, แก้ใจสั่นหวิว, รักษาอาการมือเท้าเย็น
อาการขัดเบา, แก้ลมวิงเวียน, แน่นหน้าอก, ขยายหลอดเลือดหัวใจ, โรคเกาต์, ช่วยให้โลหิตหมุน
เวียนดีขึ้น, ผิวพรรณผุดผ่องสดใส ( แต่ต้องกินติดต่อกันนานประมาณ 20 - 30 วัน จึงจะเริ่มเห็นผล )
ในตำรายาไทยได้กล่าวถึงการนำกระชายดำมารักษา โดยการใช้เหง้าในการแก้โรคในปาก
เช่น ปากเปื่อย, ปากเป็นแผล, ตกขาว, ขับปัสสาวะ, รักษาโรคบิด, ปวดมวนในท้อง, โรคกระเพาะ
อาหาร และ ยังพบว่าในกระชายดำมีฤทธิ์ในการรักษาเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคผิวหนัง และ รักษาอาการ
เหน็บชา
แต่ที่กล่าวขานกันมากถึงสรรพคุณของ " กระชายดำ " คือ เพิ่มฮอร์โมนบำรุงกำลังทางเพศ
( โดยเฉพาะท่านชาย ) ลดอาการปวดเมื่อย, เมื่อยล้า, ปวดข้อ, ปวดหลัง เนื่องจากการทำงาน
หนัก หรือ ยืน, เดินเป็นเวลานาน
ข้อมูลที่มา : กรมวิชาการเกษตร